หากใครเคยดู Sicario (ภาคแรก) มาแล้ว คงจะรับรู้ได้ถึงความดิบของหนัง ตัวหนังที่ว่าด้วยเรื่องแก๊งค์ค้ายาแถบชายแดนอเมริกากับเม็กซิโก ในภาคแรกจะดำเนินเรื่องด้วยตัวเอกหญิง Kate Macer นำแสดงโดย Emily Blunt ที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับเส้นเรื่องของตัวละครที่ซ่อนความลับไว้อีกสองตัว คือ Alejandro (Benicio Del Toro) กับ Matt Graver (Josh Brolin) แต่ในภาคต่อนี้เราจะได้เจอกับเนื้อเรื่องหลักๆของ Alejandro และ Matt และก็มีนักแสดงสมทบเด็กหน้าใหม่อีกสองคน
เนื่องจากภาคแรกตัวหนังมีความโหด ดิบ เถื่อนมากๆอยู่แล้ว คาดว่าผู้กำกับและคนเขียนบทคงต้องรับงานหนักพอสมควรกับการวางเรื่องในภาคต่อนี้ให้เดินหน้าได้ต่อเนื่องและมีทิศทางที่พัฒนาเสริมจากภาคแรกได้ดีกว่าเดิม ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง หนังภาคต่อนี้มีความโหด ดิบ เถื่อนมากกว่าเดิมเยอะ (ขอไม่สปอยล์) ยังคงมีฉากยิงกันซัดกันเละจนเลือดสาด และมีหลายฉากที่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้ ดูแล้วแบบอุทานในใจ เห้ย เอาแบบนี้จริงๆเหรอ คือจะเรียกว่าหักมุมก็ไม่เชิง คือมันหักมุมไปๆมาๆจนไม่แน่ใจว่าเนื้อเรื่องต่อไปจะเป็นยังไงกันแน่ แล้วก็เดาไม่ได้ว่าภาคต่อไปจะมีรึป่าว แล้วจะโหดกว่าเดิมอีกไหม
หนังยังคงจิดกัดและเสียดสีรัฐบาลอเมริกาเหมือนเดิม ดูแล้วไม่แน่ใจว่าหนังสนับสนุนนโยบายสร้างกำแพงเพื่อกั้นคนหนีเข้าเมืองของทรัมป์รึเปล่า เพราะหลายๆอย่างในหนังมันดูแบบว่าอเมริกาเข้าไปจุ้นจ้านซะหมดทุกเรื่อง คือต่อให้เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับการแก้แค้นกลุ่มก่อการร้ายจากศาสนานึงก็เถอะ แต่การแก้แค้นมันก็วุ่นวายขยายวงกว้างไปจนแก้ไขไม่ได้ จนทำให้ความอึดอัดใจของตัวละครในการแก้ปัญหา ส่งผลมาให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดตามด้วย การแสดงของตัวละครหลายตัวในเรื่องถือว่าแสดงได้ดีมาก โดยเฉพาะ Josh Brolin กับ Del Toro ถ้าใครได้ดู The Avengers infinite Wars มาแล้วคงปรับตัวกันไม่ทันเลยทีเดียว Brolin แสดงเป็น Tanos ที่ดูโหดแล้ว มาเจอเรื่องนี้โหดกว่าเยอะ Del Toro แสดงเป็น The Collector ที่ดูติ๊งต๊อง มาเรื่องนี้ก็โหดไปเลยเช่นกัน
ส่วนนักแสดงเด็กหน้าใหม่ ถือว่าแสดงได้ดีมากๆเหมือนกัน
Sicario เป็นภาษาสเปนแปลว่า นักฆ่า ภาคนี้เราจะได้เห็นการเข้ามาเป็นนักฆ่าของตัวละครหลายๆตัว ทั้งตัวใหม่และเก่าได้ชัดเจนมากขึ้น เหตุผลหลักๆก็หนีไม่พ้นเรื่องสภาพแวดล้อมการดิ้นรนการใช้ชีวิต รวมถึงการแก้แค้น…